ตอบชัด! หุ่นพยนต์โดนตัดฉาก
บุกบ้าน ‘พจน์ อานนท์’ ผู้กำกับพันล้าน จ้างแฟน3คน ดูแลเดือนละแสน

‘พจน์ อานนท์’ เป็นลูกคนสุดท้อง เติบโตมาในครอบครัวที่เลี้ยงแบบให้สู้ชีวิต คิด และตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

จากโรงเรียนมัธยมวัดด่านสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ชีวิตในวัยเด็กทำหลายอาชีพ ทั้งเป็นเด็กเสิร์ฟ กระเป๋ารถเมล์ ในสมัยเด็กพักแถวพระโขนง

เคยเป็นเด็กเสิร์ฟที่โรงแรมแอมบาสเตอร์ เริ่มทำงานด้วยการเป็นผู้จัดการฝ่ายขายโฆษณาของนิตยสารเธอกับฉัน ต่อมาในปี 2530 ได้ขึ้นเป็นบรรณาธิการ

นิตยสารฉบับเดียวกัน หลังจากนั้นได้เป็นผู้ก่อตั้งนิตยสารสำหรับวัยรุ่นหลายฉบับรวมถึงเป็นแมวมองมีชื่อ เมื่อสมัยเป็นบรรณาธิการนิตยสารชื่อดังอย่าง เธอกับ

ฉัน , ‘พจน์ อานนท์’ ได้ปลุกปั้นให้ดาราแจ้งเกิดในวงการมาแล้วหลายต่อหลายคนหลายยุคต่อเนื่องกันมา กระทั่งในปัจจุบัน ‘พชร์’ ได้ผันตัวเอง

มาเป็นผู้กำกับหนังจนมีชื่อเสียงมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง แต่ก็ยังไม่หยุดเป็นแมวมอง มองหาหนุ่มสาวหน้าตาดีหรือมีบุคลิกโดดเด่นมาร่วมเล่นหนัง

ให้ตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ด้านภาพยนตร์ เขาเริ่มจากเป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “สะแด่วแห้ว (2535)” ของค่ายไฟว์สตาร์ ต่อมาในปี 2538

ได้รับเป็นผู้กำกับเต็มตัว กับภาพยนตร์เรื่อง “สุดขั้วโลก” เป็นเรื่องแรกได้สร้างชื่อเสียง และล่าสุดสืบเนื่องจากประเด็นที่ “หุ่นพยนต์” ถูกจัดให้

อยู่ในเรต ฉ.20+ ถูกเลื่อนฉาย และถูกสั่งตัดฉาก 6 ข้อตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ท่ามกลางหลายคนต่างแสดงความเห็นถึงประเด็นนี้ อย่างล่าสุด

‘พชร์ อานนท์’ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ได้เปิดใจถึงประเด็นนี้ โดยบอกว่า “ต้องเปิดใจกว้างแล้ว เพราะว่าเราเอาเรื่องจริงมาพูดในหนัง

จะปิดบังไปถึงไหนเพราะคนก็คิดเป็นแล้ว มือถือก็มีทุกคน ข่าวมันก็เข้าหูทุกวัน ก็น่าจะอะลุ้มอล่วยกันได้ ไม่ใช่ว่ามีอำนาจก็ตัดอย่างเดียว”

ถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้น คนในวงการหนังอยากให้มีการปฏิรูปยังไง? “มันต้องปฏิรูปที่กระทรวงวัฒนธรรมหรือเปล่าเพราะเขาเป็นคนเซนเซอร์หนัง

มันก็ต้องปฏิรูปจากตรงนั้นว่าอะไรได้อะไรไม่ได้ แก้กฎหมายกันไป” ‘พจน์ อานนท์’เป็นผู้กำกับภาพยนต์ยาวนานกว่า 30 ปี กว่าจะมีวันนี้

ตนได้เปิดใจว่าเคยลำบากมามาก กว่าจะมีบ้านที่สวยหรู มีเงินใช้ ก็หามาได้จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ตอนนี้ภูมิใจมากๆ ลงทุนซื้อบ้าน

ต้องบอกเลยว่าหรูหรา อู่ฟู่ สมฐานะกับผู้กำกับพันล้านเลยจริงๆ ชีวิตปัจจุบันก็เป็นผู้กำกับและตนตั้งใจว่าจะทำไปจนกว่าวันหนึ่งจะทำไม่ไหว