เผยแล้วสาเหตุเกิดขึ้นจากสิ่งใกล้ตัว
‘นพ.ธนีย์ ธนียวัน’ วิเคราะห์อาการ ‘เอส กันตพงศ์’ นอนยังไม่ฝืนเกือบเดือน
จากกรณีพระเอกหนุ่ม เอส กันตพงศ์ วูบหมดสติกลางอีเวนต์ดีเบตเลือกตั้ง โดยขณะนี้อาการยังวิกฤต ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และดูอาการวันต่อวัน โดยก่อนหน้านี้ คริสติน่า ภรรยาของเอส
ได้เผยเกี่ยวกับอาการป่วยของสามีว่า ตอนที่วูบหมดสติไปนั้น เอสหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน มีการทำ CPR จนกลับมาได้ ขณะทางแพทย์ระบุว่าเขามีอาการหัวใจอักเสบ
ล่าสุดในช่อง Doctor Tany ของ นพ.ธนีย์ ธนียวัน อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด วิกฤตบำบัด และการปลูกถ่ายปอด ซึ่งทำงานอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา และมักมีคอนเทนต์พูดคุยปัญหาทางการแพทย์ต่าง ๆ ลงในยูทูบ
และมีผู้ติดตามกว่า 4 แสนคน ได้ออกมาเผยแพร่คลิป “วิเคราะห์กรณีของเอส กันตพงศ์ เกิดอะไรขึ้น จะฟื้นได้แค่ไหน” โดยมีช่วงที่วิเคราะห์ถึงสาเหตุของอาการป่วย คาดว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนุ่มเอส ดังนี้
คนที่ไม่มีอาการอะไรมาก่อน อายุ 36 แล้วจู่ ๆ หัวใจเต้นผิดปกติ ที่วูบหมดสติ หมอคิดว่าต้องเป็นการเต้นผิดปกติของหัวใจ น่าจะเป็นหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดปกติ ทำให้เลือดไม่สามารถบีบออกไปได้
เลือดค้างหัวใจ ไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะสมอง จึงเกิดอาการหมดสติขึ้น ในการช่วยเหลือชีวิต นอกจากการปั๊มหัวใจ เพื่อให้มีเลือดไปเลี้ยงสมองได้
จะต้องมีการช็อกไฟฟ้า เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นด้วยจังหวะปกติ แล้วทำไมจู่ ๆ หัวใจเต้นปกติได้ เกิดได้ด้วยสาเหตุหลาย ๆ อย่าง มีทั้งที่เป็นมาแต่กำเนิด แต่ไม่รู้ตัว
แล้วมาเกิดอาการตอนอายุช่วงนี้ และยังมีสาเหตุอื่นอีก หมอได้ยินคำว่า “หัวใจอักเสบ” ซึ่งที่เจอบ่อยสุดเกิดจากไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสอื่น ๆ
ถ้าเกิดจากไวรัส จะมีอาการนำมาก่อน แต่คนอาจไม่รู้ตัว เช่น รู้สึกเพลีย ๆ เจ็บแน่นหน้าอก แต่เป็นไม่มาก บางคนอาจคิดว่าเพราะทำงานเหนื่อยเกินไป บางคนอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นกรดไหลย้อน พวกนี้เป็นอาการนำของไวรัสที่ทำให้เกิดหัวใจอักเสบได้
แต่มันบอกลำบากมาก เพราะมันเหมือนแค่เรารู้สึกเหนื่อยธรรมดา แล้วจู่ ๆ ก็เกิดเรื่องขึ้นมา คนสงสัยว่าเกิดจากวัคซีนหรือเปล่า คือวัคซีนที่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้ ไม่ได้เกิดหลังฉีดวัคซีนนานขนาดนี้
หมอไม่แน่ใจว่าคุณเอสฉีดวัคซีนไปเมื่อไร แต่เท่าที่ได้ยินข่าว น่าจะฉีดไปนานมาก ๆ แล้ว เรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
จะเกิดขึ้นได้หลังฉีดวัคซีนไม่เกิน 6 สัปดาห์ และเท่าที่มีรายงานชัดเจน ไม่มีเคสไหนที่อาการหนักถึงขั้นเสียชีวิต จึงคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเกี่ยว เมื่อมาถึงหมอ ระหว่างทางจะต้องมีการปั๊มหัวใจ
ซึ่งทำให้มีการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหัวใจได้ และหัวใจจะมีการปล่อยเอนไซม์ออกมาจากหัวใจ ซึ่งบางครั้งเราใช้บอกว่าหัวใจมีปัญหา มีการอักเสบ แต่มันไม่สามารถบอกได้ว่าเอนไซม์ออกมาเพราะเราปั๊มหัวใจ
หรือมันมีอาการอักเสบอยู่ตั้งแต่แรก ซึ่งส่วนตัวหมอไม่มีข้อมูล จึงไม่สามารถบอกได้ว่าอักเสบจริงหรือไม่ ถ้าจริง อาจจะมีไวรัสเข้าไปติดในหัวใจก่อน
อย่างโควิดไวรัสก็ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้มากกว่าตัววัคซีนอีก ถ้ามันอักเสบก็อาจมีค่าการอักเสบในเลือดสูงขึ้น ก็จะตรวจค่าต่าง ๆ ที่พอบอกได้ว่ามีการอักเสบของหัวใจ
และทั่วร่างกาย ซึ่งก็ต้องใช้ร่วมกับเอนไซม์ที่ออกมาจากหัวใจในการบอก แต่เอนไซม์ก็อาจจะออกมาจากการปั๊มได้ จึงไม่สามารถวิเคราะห์ได้มากไปกว่านี้ เนื่องจากไม่มีข้อมูล